รูเล็ต (Roulette) ถือเป็นหนึ่งในเกมคาสิโนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยรูปแบบการเล่นที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความตื่นเต้น เกมนี้ดึงดูดทั้งผู้เล่นมือใหม่ และนักพนันมืออาชีพมาอย่างยาวนาน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับกฎกติกาของรูเล็ตในแต่ละรูปแบบ วิธีการวางเดิมพันอย่างถูกต้อง ไปจนถึงอัตราการจ่ายเงิน เพื่อให้คุณเข้าใจเกมรูเล็ตได้อย่างถ่องแท้ และสามารถเริ่มต้นเล่นได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นในคาสิโนจริง หรือ บนแพลตฟอร์ม เว็บพนันออนไลน์
รูเล็ต คืออะไร? ประวัติและความเป็นมาของเกมวงล้อสุดคลาสสิก
รูเล็ต (Roulette) มีรากศัพท์มาจากภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า “วงล้อเล็ก” โดยเกมนี้ถือกำเนิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศสช่วงศตวรรษที่ 17 จากการผสมผสานระหว่างศาสตร์แห่งคณิตศาสตร์ และเกมเสี่ยงโชคต่าง ๆ ในยุคนั้น นักคณิตศาสตร์ชื่อดังอย่างแบลซ ปาสกาล (Blaise Pascal) มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแนวคิดของวงล้อที่กลายมาเป็นต้นแบบของรูเล็ตในปัจจุบัน ในช่วงศตวรรษที่ 18 รูเล็ตเริ่มแพร่หลายในบ่อนคาสิโนยุโรป ก่อนจะขยายไปสู่สหรัฐอเมริกา และกลายเป็นหนึ่งในเกมคาสิโนยอดนิยมทั่วโลก ด้วยเสน่ห์ของความเรียบง่าย ผสมผสานกับความตื่นเต้นจากการลุ้นตัวเลข ทำให้รูเล็ตกลายเป็นเกมคลาสสิกที่ยังคงครองใจผู้เล่นมาจนถึงทุกวันนี้

เจาะลึกวงล้อรูเล็ต เรียนรู้ตัวเลข การจัดวาง และวิธีหมุน
วงล้อรูเล็ตไม่ได้เป็นเพียงแค่วงกลมที่มีตัวเลขสุ่ม ๆ เท่านั้น แต่มันคือ “หัวใจ” ของเกมที่ถูกออกแบบอย่างแม่นยำทางคณิตศาสตร์ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างความยุติธรรม และความตื่นเต้น วงล้อจะแบ่งออกเป็นช่องตัวเลข โดยมีความแตกต่างกันตามประเภทของรูเล็ต
ประเภทวงล้อ | จำนวนช่อง | เลขพิเศษ |
รูเล็ตยุโรป | 37 ช่อง | 0 |
รูเล็ตอเมริกัน | 38 ช่อง | 0 และ 00 |
รูเล็ตฝรั่งเศส | 37 ช่อง | 0 (มีกฎพิเศษ) |
รูปแบบการจัดเรียงตัวเลข
ตัวเลขบนวงล้อ ไม่ได้เรียงตามลำดับ 1-36 แต่ถูกจัดวางเพื่อสลับกลุ่มตัวเลขอย่างสมดุล ได้แก่
- สลับระหว่าง เลขสูง (19–36) และ เลขต่ำ (1–18)
- สลับระหว่าง เลขคู่–คี่
- กระจาย สีแดง–ดำ ให้สมดุล
- ตัวเลขฝั่งซ้าย–ขวาจะไม่เรียงกันเป็นกลุ่มบนตารางเดิมพัน
ยกตัวอย่างเช่น เลข 32 สีแดง จะอยู่ติดกับเลข 15 สีดำ — คนละกลุ่มตัวเลข และคนละสี เพื่อไม่ให้มี “กลุ่มที่ได้เปรียบ” ในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งของวงล้อ
วิธีหมุนวงล้อและการเล่น
เมื่อเริ่มเกม ดีลเลอร์จะหมุนวงล้อไปในทิศทางหนึ่ง แล้วปล่อยลูกบอลหมุนสวนทางลงบนรางด้านนอกของวงล้อ เมื่อลูกบอลลดความเร็ว มันจะตกลงในช่องใดช่องหนึ่งแบบสุ่ม
ขั้นตอนการหมุนนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องของดวง แต่ในเชิงฟิสิกส์แล้วยังมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น
- ความเร็วในการหมุนของวงล้อ และลูกบอล
- แรงเหวี่ยง และแรงเสียดทาน
- รูปร่างของราง และช่องตกกระทบ
ผู้เล่นบางระดับอาชีพอาจพยายามใช้สิ่งเหล่านี้คาดเดาผล แต่สำหรับผู้เล่นทั่วไป การเข้าใจตำแหน่งของตัวเลขบนวงล้อก็เพียงพอในการวางเดิมพันให้มีแนวโน้มมากขึ้น เช่น การใช้ Racetrack Betting ที่เลือกตัวเลขตามตำแหน่งจริงบนวงล้อ
ความแตกต่างระหว่างรูเล็ตยุโรป อเมริกัน และฝรั่งเศส
รูเล็ตมีหลายรูปแบบ แต่ที่นิยมมากที่สุด คือ รูเล็ตยุโรป (European Roulette), รูเล็ตอเมริกัน (American Roulette) และ รูเล็ตฝรั่งเศส (French Roulette) ซึ่งแต่ละแบบมีความแตกต่างกันหลัก ๆ ในเรื่องของจำนวนช่องบนวงล้อ และกฎกติกาพิเศษบางประการ โดยสิ่งเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่ออัตราการชนะของผู้เล่น และความได้เปรียบของเจ้ามือ (House Edge)
ลักษณะเปรียบเทียบที่สำคัญ:
- รูเล็ตยุโรป (European)
- จำนวนช่อง: 37 ช่อง (เลข 0–36)
- House Edge: ประมาณ 2.70%
- เป็นที่นิยมในคาสิโนทั่วไป และออนไลน์
- ไม่มีกฎพิเศษเพิ่มเติม
- รูเล็ตอเมริกัน (American)
- จำนวนช่อง: 38 ช่อง (เพิ่มเลข 00)
- House Edge: ประมาณ 5.26%
- โอกาสชนะน้อยกว่ารูปแบบอื่น
- มักพบในคาสิโนสหรัฐฯ
- รูเล็ตฝรั่งเศส (French)
- จำนวนช่อง: 37 ช่อง (เหมือนยุโรป)
- House Edge: เหลือเพียง 1.35% (เมื่อใช้กฎ La Partage / En Prison)
- มีกฎพิเศษช่วยลดความเสียเปรียบของผู้เล่น
- ได้รับความนิยมในคาสิโนยุโรประดับสูง
ประเภทของการเดิมพันใน รูเล็ต (Inside & Outside Bets)
การเดิมพันใน รูเล็ต แบ่งออกเป็นสองประเภทหลักคือ Inside Bets และ Outside Bets ซึ่งแต่ละแบบมีลักษณะการวางเดิมพัน อัตราการจ่ายเงิน และความเสี่ยงที่แตกต่างกัน การเข้าใจความหมายของแต่ละประเภทจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถวางแผนการเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสไตล์ของตนเอง
Inside Bets – การเดิมพันภายใน
เป็นการเดิมพันที่วางชิปลงบนตัวเลขเฉพาะเจาะจง หรือ กลุ่มตัวเลขขนาดเล็ก ซึ่งอยู่บริเวณ “ด้านใน” ของกระดานเดิมพัน มีอัตราการจ่ายที่สูง แต่โอกาสชนะค่อนข้างต่ำ
ประเภทของ Inside Bets ได้แก่:
- Straight Up: แทงเลขเดียว เช่น 17 (อัตราจ่าย 35:1)
- Split: แทงเลขติดกัน 2 ตัว เช่น 14 กับ 17 (อัตราจ่าย 17:1)
- Street: แทงตัวเลขแนวตั้ง 3 ตัว เช่น 10-11-12 (อัตราจ่าย 11:1)
- Corner (Square): แทงเลข 4 ตัวในรูปสี่เหลี่ยม เช่น 1-2-4-5 (อัตราจ่าย 8:1)
- Six Line: แทงตัวเลข 6 ตัวใน 2 แถวติดกัน เช่น 10-11-12 และ 13-14-15 (อัตราจ่าย 5:1)
Outside Bets – การเดิมพันภายนอก
เป็นการเดิมพันที่ครอบคลุมกลุ่มตัวเลขจำนวนมาก มีโอกาสชนะสูงกว่าแต่มีอัตราการจ่ายน้อยกว่า เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการความเสี่ยงต่ำ
ประเภทของ Outside Bets ได้แก่:
- Red / Black: แทงสีของช่อง (อัตราจ่าย 1:1)
- Odd / Even: แทงเลขคี่ หรือ เลขคู่ (อัตราจ่าย 1:1)
- High / Low: แทงเลขต่ำ (1–18) หรือ เลขสูง (19–36) (อัตราจ่าย 1:1)
- Dozens: แทงเป็นกลุ่ม 12 ตัว เช่น 1–12, 13–24, 25–36 (อัตราจ่าย 2:1)
- Columns: แทงทั้งคอลัมน์แนวตั้ง (อัตราจ่าย 2:1)
การเลือกเดิมพันแบบ Inside หรือ Outside ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ หากต้องการลุ้นรางวัลใหญ่ อาจเลือก Inside Bets แต่ถ้าต้องการความปลอดภัยในการเล่นระยะยาว Outside Bets อาจตอบโจทย์มากกว่า

กฎกติกาของ รูเล็ต ที่นักเดิมพันควรทราบก่อนเข้าเดิมพัน
รูเล็ตเป็นเกมที่อาศัยทั้งโชค และจังหวะในการเล่น โดยมีกฎพื้นฐานที่เข้าใจได้ไม่ยาก แต่ภายในมีรายละเอียดหลายจุดที่นักเดิมพันควรทำความเข้าใจก่อนวางเดิมพัน เพื่อให้สามารถเล่นได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้านล่างนี้คือคำอธิบาย ขั้นตอนการเล่นรูเล็ตแบบละเอียด และ กฎสำคัญ ที่ผู้เล่นควรรู้
ขั้นตอนการเล่นรูเล็ตแบบละเอียด
1. เริ่มต้นรอบเดิมพัน
- ผู้เล่นจะมีเวลาหนึ่งช่วง (ประมาณ 30–60 วินาที) สำหรับการวางชิปลงบนตำแหน่งที่ต้องการเดิมพันบนโต๊ะ ซึ่งครอบคลุมทั้งการเดิมพันภายใน (Inside Bets) และภายนอก (Outside Bets)
2. ดีลเลอร์หมุนวงล้อ และปล่อยลูกบอล
- เมื่อหมดเวลาเดิมพัน ดีลเลอร์จะหมุนวงล้อรูเล็ตไปทางหนึ่ง แล้วปล่อยลูกบอลโลหะไปอีกทิศทางหนึ่ง เพื่อให้ลูกบอลวิ่งสวนทางกับวงล้อ
3. ปิดรอบเดิมพัน
- ดีลเลอร์จะประกาศว่า “No more bets” ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นไม่สามารถวาง หรือ เปลี่ยนแปลงเดิมพันได้อีกแล้วในรอบนั้น
4. ลูกบอลหยุด และประกาศผล
- เมื่อลูกบอลหยุดลงในช่องใดช่องหนึ่ง (เช่น 21 สีแดง) ดีลเลอร์จะประกาศผล และวางเครื่องหมาย (marker) ลงบนหมายเลขที่ถูกรางวัลบนโต๊ะ
5. การจ่ายเงิน และเก็บเดิมพันที่แพ้
- เดิมพันที่ชนะจะได้รับการจ่ายเงินตามอัตราจ่ายของแต่ละประเภท
- เดิมพันที่แพ้จะถูกเก็บโดยเจ้ามือ และรอบใหม่จะเริ่มต้น

อัตราการจ่ายเงินของแต่ละรูปแบบเดิมพัน
เกมรูเล็ต อัตราการจ่ายเงินของการเดิมพันแต่ละประเภทแตกต่างกันไปตามระดับความเสี่ยง และความน่าจะเป็นในการชนะ โดยทั่วไปแล้ว การเดิมพันแบบที่มีโอกาสชนะต่ำ เช่น แทงเลขเดียว (Straight Up) จะมีอัตราจ่ายที่สูง ในขณะที่การเดิมพันที่มีโอกาสชนะสูง เช่น แทงแดง/ดำ หรือ คู่/คี่ จะมีอัตราจ่ายต่ำกว่า การทำความเข้าใจอัตราการจ่ายเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการเดิมพันได้ดีขึ้น
ประเภทเดิมพัน | รายละเอียดตัวอย่าง | อัตราจ่าย (ต่อ 1 หน่วยเดิมพัน) |
Straight Up | แทงเลขเดี่ยว เช่น 17 | 35 : 1 |
Split | แทงเลข 2 ตัวติดกัน เช่น 14–17 | 17 : 1 |
Street | แทงเลข 3 ตัวในแถวแนวนอน เช่น 10–11–12 | 11 : 1 |
Corner (Square) | แทงเลข 4 ตัวในรูปสี่เหลี่ยม เช่น 1–2–4–5 | 8 : 1 |
Six Line | แทงเลข 6 ตัวใน 2 แถวติดกัน เช่น 13–18 | 5 : 1 |
Column | แทงเลขทั้งคอลัมน์ เช่น คอลัมน์ที่มี 1–4–7 | 2 : 1 |
Dozen | แทงกลุ่มเลข 12 ตัว เช่น 1–12, 13–24 | 2 : 1 |
Red / Black | แทงสีของหมายเลข | 1 : 1 |
Even / Odd | แทงเลขคู่หรือเลขคี่ | 1 : 1 |
High / Low (1–18 / 19–36) | แทงเลขต่ำหรือสูง | 1 : 1 |
แนะนำตัวเลือกรูเล็ตสนามแข่ง เดิมพันแบบมืออาชีพในคลิกเดียว
ชื่อตัวเลือก | จำนวนตัวเลขที่ครอบคลุม | คำอธิบาย |
---|---|---|
ติดกับศูนย์ | 17 ตัวเลข | ตัวเลขที่อยู่รอบ ๆ หมายเลข 0 บนวงล้อ ครอบคลุมตั้งแต่เลข 22 ถึง 25 วางเดิมพันหลายตำแหน่งพร้อมกัน |
เลขรอบศูนย์ | 7 ตัวเลข | ตัวเลขที่อยู่ใกล้เลข 0 มากที่สุด ได้แก่ 12, 35, 3, 26, 0, 32, 15 วางด้วย Split และ Street |
ที่สาม | 12 ตัวเลข | ตัวเลขฝั่งตรงข้ามกับ Voisins du Zéro ครอบคลุมตั้งแต่เลข 27 ถึง 33 |
ออแฟนส์ | 8 ตัวเลข | กลุ่มตัวเลขที่ไม่อยู่ใน Voisins หรือ Tiers แบ่งเป็น 2 ส่วนบนวงล้อ เรียกว่า “เลขกำพร้า” |
เดิมพันเพื่อนบ้าน | 5 ตัวเลข (โดยปกติ) | วางเดิมพันเลขที่อยู่ติดกับเลขที่เลือก เช่น เลือก 8 ก็วางที่ 8 พร้อมซ้าย-ขวาอย่างละ 2 ตัว |
ข้อควรรู้และข้อควรระวังก่อนเล่นรูเล็ต
แม้ว่ารูเล็ตจะเป็นเกมที่เข้าใจง่าย และสนุก แต่ก็มีรายละเอียดบางอย่างที่ผู้เล่นควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนเริ่มเดิมพัน เพราะเกมนี้ยังคงเป็นเกมที่อิงกับ “ความน่าจะเป็น” และมีความเสี่ยงเหมือนกับเกมพนันอื่น ๆ การรู้เท่าทันข้อควรระวัง และเตรียมความพร้อมก่อนเล่น จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเล่นอย่างมีสติ และลดโอกาสสูญเสียโดยไม่จำเป็น
ข้อควรรู้ก่อนเล่น รูเล็ต
- รู้จักรูปแบบรูเล็ตที่คุณเล่น
รูเล็ตมีหลายเวอร์ชัน เช่น ยุโรป อเมริกัน และฝรั่งเศส ซึ่งมีจำนวนช่องต่างกัน ส่งผลต่อโอกาสชนะ และค่า House Edge หากคุณเลือกได้ ควรเล่นแบบยุโรปหรือฝรั่งเศสเพราะมีโอกาสดีกว่า
- ทำความเข้าใจประเภทของการเดิมพัน
การเดิมพันแบบ Inside มีผลตอบแทนสูงแต่ความเสี่ยงมาก ส่วน Outside มีโอกาสชนะมากกว่าแต่ผลตอบแทนน้อย ควรเลือกตามระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
- อัตราจ่ายไม่ได้เท่ากับโอกาสชนะ
แม้บางเดิมพันจะมีอัตราจ่ายสูงถึง 35:1 แต่โอกาสในการชนะนั้นต่ำมาก ควรบริหารเงินให้สอดคล้องกับประเภทเดิมพันที่เลือก
ข้อควรระวังในการเล่นรูเล็ต
- อย่าเล่นด้วยความคาดหวังว่าจะ “เอาคืน”
เมื่อแพ้หลายตาติดต่อกัน อย่าใจร้อน หรือ วางเดิมพันเพิ่มมากผิดปกติ เพราะอาจนำไปสู่การขาดทุนมากกว่าเดิม
- หลีกเลี่ยงโต๊ะอเมริกันถ้ามีทางเลือก
เนื่องจากมีช่อง “00” เพิ่มเข้ามา ทำให้เจ้ามือได้เปรียบมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- อย่าใช้กลยุทธ์แบบทบเงิน (Martingale) โดยไม่มีขีดจำกัด
กลยุทธ์เหล่านี้อาจดูได้ผลในระยะสั้น แต่หากคุณไม่มีทุนสำรองมากพอ อาจหมดตัวก่อนที่จะชนะ
- ตั้งงบประมาณก่อนเล่น และหยุดเมื่อถึงเป้า
เล่นอย่างมีวินัย ไม่ว่าจะได้ หรือ เสีย ให้ยึดตามแผนที่วางไว้เสมอ
สรุป เริ่มต้นเล่นรูเล็ตอย่างมั่นใจ ต้องเข้าใจกติกาให้ชัดเจน
รูเล็ตเป็นเกมที่ผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายและความตื่นเต้นได้อย่างลงตัว แต่การจะเล่นให้สนุกและลดความเสี่ยงได้นั้น ผู้เล่นควรเริ่มจากการทำความเข้าใจพื้นฐานให้รอบด้าน ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา รูปแบบของวงล้อ กฎกติกา และประเภทการเดิมพันต่าง ๆ ที่มีทั้ง Inside และ Outside Bets พร้อมกับเรียนรู้ความแตกต่างของรูเล็ตแต่ละเวอร์ชัน (ยุโรป อเมริกัน และฝรั่งเศส) ที่ส่งผลต่อโอกาสชนะและอัตราจ่ายเงินโดยตรง
จำไว้เสมอว่า รูเล็ตเป็นเกมแห่งโชคที่ควรเล่นอย่างมีสติและสนุกกับการวางกลยุทธ์ในแต่ละรอบ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือ ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ การมีพื้นฐานแน่นและเล่นอย่างมีวินัยคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับรูเล็ตได้อย่างเต็มที่และยั่งยืน